เรามีความรู้เรื่องคำศัพท์ต่างๆ เกี่ยวกับประกันภัยรถยนต์มากแค่ไหน รู้ครบขนาดนี้รับรองคุยกับประกันรู้เรื่องแน่นอนค่ะ

      1.ประกันภัยภาคบังคับ (พ.ร.บ.) เป็นประกันภัยที่กฎหมายกำหนดให้ทุกคันต้องมีและต้องทำต่อเนื่องกันทุกปี จึงจะสามารถเสียภาษีรถยนต์ประจำปีได้ โดยมีความคุ้มครองการบาดเจ็บหรือเสียชีวิตของผู้ขับขี่คันนั้น สูงสุดไม่เกิน 500,000 แต่ไม่คุ้มครองพาหนะนะคะ

      2.ประกันภัยภาคสมัครใจ เป็นประกันที่เราสามารถซื้อเพิ่มเติมเองได้เพื่อความสบายใจ โดยความคุ้มครองก็เป็นไปตามประกันที่ลูกค้าเลือกซื้อนะคะ 

      3.ภาษีรถยนต์ เป็นเรื่องจำเป็นที่ต้องทำประจำทุกปีตามกฎหมายกำหนด ซึ่งจำนวนภาษีที่ต้องจ่ายก็เป็นไปตามกฎของกรมขนส่ง ลูกค้าสามารถไปต่อภาษีด้วยตนเองที่ขนส่ง หรือ สถานที่รับตรวจ ตรอ.ที่เราเห็นทั่วไปได้เลยนะคะ และเมื่อต่อแล้วได้ป้ายภาษีถือเป็นเอกสารสำคัญ อย่าลืมติดไว้ที่หน้ากระจกรถนะคะ ที่สำคัญหากลืมต่อภาษีตามกฎหมายมีค่าปรับล่าช้าด้วยนะคะ

*กรณีรถที่มีอายุเกิน 7 ปี (นับตั้งแต่วันจดทะเบียนครั้งแรก) ต้องผ่านการตรวจ ตรอ. ก่อนถึงจะสามารถต่อภาษีได้นะคะ

.

ค่าความเสียหายส่วนแรก (Excess) คือ จำนวนเงินที่ลูกค้าต้องชำระเพิ่มเมื่อเคลมประกันจากอุบัติเหตุ โดยส่วนใหญ่เริ่มต้นที่ 1,000 บาท แต่ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับเงื่อนไขแต่ละประกันนะคะว่า บังคับกำหนดไว้เท่าไหร่ ดังนั้นก่อนทำประกันอย่าลืมศึกษาดูข้อมูลส่วนนี้ไว้ด้วยนะคะ เพราะบางประกันก็มีค่า Excess ทุกกรณี บางประกันก็เสียเมื่อไม่มีคู่กรณีค่ะ  *หากเราทำประกันชั้น 1 แล้วไม่เกิดอุบัติเหตุ ไม่ได้เคลม อาจจะช่วยให้เราได้รับส่วนลดค่าเบี้ยในปีถัดไปด้วย (ประกันเดิม อย่าลืมสอบถามทางประกันอีกทีนะคะ เงื่อนไขเป็นไปตามแต่ละประกันนะคะ)

.

ซ่อมห้าง หรือ ซ่อมอู่ 2 แบบนี้มีความแตกต่างกัน โดยการซ่อมห้าง ก็คือการนำรถเข้าซ่อมที่ศูนย์การ และการซ่อมอู่ ก็คือการนำรถเข้าซ่อมอู่ทั่วไป ดังนั้นประสิทธิภาพ คุณภาพ ตลอดจนการบริการก็แตกต่างกันไป แต่ทั้งนี้การซื้อประกันรถยนต์การเลือกซ่อมห้างหรือซ่อมอู่ก็มีผลต่อเบี้ยประกันแต่ละปีที่แตกต่างกันไปด้วยนะคะ ซึ่งปกติการเลือกซ่อมห้างจะมีค่าเบี้ยประกันที่สูงกว่านะคะ หรือหากกรณีรถเราต่อประกันนานจนครบที่กฎหมายกำหนดก็จะไม่สามารถเลือกซ่อมห้างได้ทางประกันก็จะบังคับซ่อมอู่นะคะ

.

การเคลม การเคลมมีทั้งเรียกว่า "เคลมแห้ง" และ "เคลมสด" โดยการเคลมแห้ง คือการเคลมหลังจากเกิดอุบัติเหตุไประยะหนึ่งแล้ว โดยผู้ขับขี่ต้องจำวันเวลาและสถานที่เกิดเหตุให้ชัด เพื่อแจ้งเจ้าหน้าที่ประกัน มักใช้กับเหตุการณ์เฉี่ยวชนเล็กน้อย และ การเคลมสด คือการแจ้งประกันหน้างานที่เกิดอุบัติเหตุ ณ ตอนนั้นเลย

.

เป็นอย่างไรกันบ้างค่ะ ข้อมูลที่นำมาฝากลูกค้าหวังว่าจะเป็นประโยชน์ให้ลูกค้าในการขับขี่และการเลือกประกันภัยรถยนต์นะคะ แล้วพบกับข้อมูลดีๆ ในครั้งต่อไปนะคะ

_____________________

สนใจรถมือสองคุณภาพดี มาที่ โตโยต้า ชัวร์ กรุงไทย นะคะ