หากคุณกำลังวางแผนที่จะเดินทางไกล ไม่ว่าจะเป็นการท่องเที่ยว พักผ่อน ในช่วงวันหยุด หรือกำลังวางแผนที่กลับบ้านช่วงเทศกาล จะเป็นช่วงวันหยุดยาวของเทศกาลสงกรานต์หรือช่วงสิ้นปี ก็ตาม การเตรียมความพร้อมของรถยนต์ถือเป็นเรื่องสำคัญอย่างมาก เพื่อให้การเดินทางราบรื่น ปลอดภัย และไม่เกิดปัญหากลางทาง มาดูกันว่าควรตรวจเช็กจุดสำคัญ จุดไหนบ้างก่อนออกเดินทาง 

1. ระบบเครื่องยนต์และของเหลว

• น้ำมันเครื่อง - ตรวจระดับน้ำมันในอยู่ระหว่างขีด F และ L หากต่ำกว่าควรเติมน้ำมันให้อยู่ในระบบที่เหมาะสม 
• น้ำมันหล่อเย็น ( หม้อน้ำ ) - ตรวจระดับ อย่าให้อยู่ต่ำกว่าขีด Min หรือ Low อาจเกิดอาการหม้อน้ำรั่ว ทำให้เครื่องร้อนจนมีอาการ Overheat 
• น้ำมันเกียร์ - ตรวจสอบระดับที่เหมาะสม จะต้องไปเกินขีด Max ของฝั่ง Hot เมื่อเครื่องยนต์ทำงาน
• น้ำมันเบรก- ตรวจระดับน้ำมันเบรกให้ไม่ต่ำกว่าขีด MIN แต่ไม่เกินขีด Max และควรเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเบรกทุกๆ 1-2 ปี หรือ 40,000 กิโลเมตร 
• น้ำมันพวงมาลัยเพาเวอร์ - หากพวงมาลัยเริ่มหนักขึ่นและบังคับได้ยาก ควรเปลี่ยนถ่ายน้ำมันตามระยะหรือตามที่คู่มือระบุ
• น้ำฉีดกระจก - เช็กระดับน้ำในถังให้อยู่ในระดับที่เพียงพอ โดยเติมน้ำที่สะอาดหรือผสมกับน้ำยาฉีดกระจกในอัตราส่วนที่เหมาะสม ไม่ควรใช้น้ำยาล้างจานหรือสบู่เหลว อาจจะทำให้ท่ออุดตันได้

2. ระบบเบรกและช่วงล่าง

• ผ้าเบรก - ตรวจดูความหนา ถ้าบางควรเปลี่ยน
• น้ำมันเบรก - ต้องอยู่ในระดับที่กำหนด
• โช้คอัพและลูกหมาก - ตรวจสอบว่ามีการรั่วซึมหรือหลวมไหม
• ลูกปืนล้อ - ฟังเสียงเวลาขับ ถ้าดังผิดปกติควรเปลี่ยน 

3. ยางและล้อรถ

• แรงดันลมยาง - เติมให้เหมาะสมตามคู่มือรถ
• ดอกยาง - ตรวจสอบการสึกหรอ ต้องไม่มากเกินไป ไม่มีรอยแตกร้าว
• ยางอะไหล่ - ตรวจสอบว่าพร้อมใช้งาน 
• แม่แรงและอุปกรณ์เปลี่ยนยาง 

4. ระบบไฟและแบตเตอรี่

• แบตเตอรี่ - เช็กแรงดันไฟและขั้วแบต ว่าแน่นหรือมีคราบสกปรกไหม
• ไฟหน้า ไฟท้าย ไฟเบรก ไฟเลี้ยว - ตรวจสอบว่าติดครบทุกดวง
• ที่ปัดน้ำฝนและน้ำฉีดกระจก - ตรวจสอบน้ำยาปัดน้ำฝนและใบปัดว่ายังใช้งานได้ดี 

5. ทดสอบระบบเครื่องปรับอากาศ 

• ตรวจสอบการทำงานของพัดลมแอร์
• ทดสอบความเย็นของแอร์
• เช็กการทำงานของคอมเพรสเซอร์ - เปิดฝากกระโปรงท้ายเช็ก หากมีการทำงานจะมีเสียงคลิกและสายพานหมุน
• ตรวจสอบไส้กรองแอร์ - แนะนำให้เปลี่ยนไส้กรองเมื่อมีกลิ่นอับ และลมแอร์ออกน้อย
• เช็กน้ำยาแอร์ 

6. อุปกรณ์ฉุกเฉินที่ควรมี

• สายพ่วงแบตเตอรี่
• ชุดปฐมพยาบาลเบื้องต้น
• ไฟฉายและเครื่องมือช่างพื้นฐาน
• เอกสารสำคัญ - ใบขับขี่ , สำเนาทะเบียนรถ , พ.ร.บ. , ประกันภัย

7. เบอร์โทรฉุกเฉินที่ควรรู้เมื่อเกิดเหตุ

• แจ้งเหตุฉุกเฉินทั่วไป

191 - ศูนย์รับแจ้งเหตุฉุกเฉิน

1669 - หน่วยแพทย์ฉุกเฉิน 

• อุบัติเหตุและช่วยเหลือรถเสีย

1193 - ตำรวจทางหลวง

1155 - ตำรวจท่องเที่ยว

1543 - กรมทางหลวง 

1586 - สายด่วนทางพิเศษ

1644 - สายด่วนมูลนิธิร่วมกตัญญู 

1554 - มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง 

สรุป 

ก่อนออกเดินทางไกล ควรเช็กรถล่วงหน้าสัก 2-3 วันก่อนออกเดินทาง หากพบปัญหาจะได้แก้ไขทันเวลา เพื่อความปลอดภัยและป้องกันปัญหาที่อาจเกิดขึ้นได้ระหว่างทาง นอกจากเช็กสภาพรถแล้ว ควรวางแผนเส้นทาง ขับขี่อย่างมีสติ ใช้ความเร็วให้เหมาะสม มีน้ำใจบนท้องถนน และผู้ขับรถควรพักผ่อนให้เพียงพอ ไม่ดื่มแอลกฮอล์ก่อนและระหว่างขับขี่ เพื่อการเดินทางที่ปลอดภัยและราบรื่น

-------------------------------------------------------------------

หากคุณกำลังมองหารถมือสองคุณภาาพดี ใช้สำหรับเดินทาง ที่โตโยต้า ชัวร์ กรุงไทย เรามีให้เลือกครบทุกยี่ห้อ 

สนใจโทร. 061 721 4515 , Line : @surekrungthai หรือ คลิก >> https://lin.ee/jYdv6opj
คลิก ดู โปรโมชั่น